The
STUDIES Model : การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียนตามรูปแบบ
The
STUDIES Model มีจุดหมายสำคัญเพื่อตอบสนองหลักการและเหตุผลสำคัญในการกำหนดแนวทางพัฒนาวิชาชีพครูตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. 2542 มาตรา 9(4) ที่ได้กำหนดบทบัญญัติให้มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาและการพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
รูปแบบ The STUDIES Model มุ่งพัฒนานักศึกษาวิชาชีพครูให้มีความรู้
ความสามารถคุณลักษณะ ความเป็นครูตามมาตรฐานวิชาชีพ ตามที่คุรุสภาได้ประกาศเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพไว้และสอดคล้องกับแนวคิดอาจารย์มืออาชีพ
แนวคิด เครื่องมือ และการพัฒนา (ไพทูรย์ สินลารัตน์
2550 บรรณาธิการเครือข่ายการพัฒนาวิชาชีพอาจารย์และองค์กรอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย)
ในการปรับปรุงคุณภาพด้านการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษาในประเด็นการพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นสัมฤทธิ์ผลในการปรับปรุงศักยภาพการเรียนของนักศึกษาผ่านกระบวนการเรียนการสอนเป็นหลัก
กรอบแนวคิดที่มา The
STUDIES Model
รูปแบบ The
STUDIES Model เป็นผลสืบเนื่องจากการศึกษาวิจัยเพื่อส่งเสริมความสามารถในการและการจัดการชั้นเรียนสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครูศึกษาวิเคราะห์หลักการแนวคิดทฤษฎีประกอบด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐในการจัดการศึกษายุค
Thailand 4. 0 หรือยุคการศึกษา 4. 0 มาตรฐานวิชาชีพครู พ. ศ. 2556 แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist
Learning การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal
Design of Instruction: UDI) การวัดผลการเรียนรู้
การกำหนดระดับความเข้าใจ ในการกำหนดค่าระดับคุณภาพการเรียนรู้ตามแนวคิด SOLO
Taxonomy การะผลการศึกษาวิจัยได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เรียกว่า
The STUDIES Model มีรายละเอียดกรอบแนวคิด (The
STUDIES Model framework) ดังแผนภาพประกอบที่ 1
1. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
2542 และ
ปรับปรุง 2553
2.มาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาสาขาครุศาสตร์และ
สาขาศึกษาศาสตร์(หลักสูตรห้าปี)
3.มาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา สาขาศึกษาศาสตร์(หลักสูตรห้าปี)
5.การศึกษา 4.0
6. การกำหนดระดับความเข้าใจในการกำหนดค่าระดับคุณภาพการเรียนรู้ตามความคิด
SOLO Taxonomy
แนวคิด
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้
1. ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ ( constructivism )
2. Constructivist Learning method : CLM
3. แนวคิดการออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล
(Universal Desing of Instruction : UDI )
4.SU Model
5.NPU Model
1. ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ ( constructivism )
2. Constructivist Learning method : CLM
3. แนวคิดการออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล
(Universal Desing of Instruction : UDI )
4.SU Model
5.NPU Model
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน
1.Meyers and other (2002)
2.Meyers and Mcnulty (2009)
3.สุเทพอ่วม เจริญประเสริฐมงคล และวัชราเล่า
เรียนดี (2559) (SU Learning Model)
4.สุจิตรา ปันดี (2558) (LRU Model)
5.นฤมล ปภัสสรานนท์ (2559) (DRU Model)
1.Meyers and other (2002)
2.Meyers and Mcnulty (2009)
3.สุเทพอ่วม เจริญประเสริฐมงคล และวัชราเล่า
เรียนดี (2559) (SU Learning Model)
4.สุจิตรา ปันดี (2558) (LRU Model)
5.นฤมล ปภัสสรานนท์ (2559) (DRU Model)
รูปแบบ The STUDIES Model
ทฤษฎี / แนวคิด
|
ขั้นตอน/กิจกรรม การเรียนรู้
|
||||||
Constructivist
|
Clarifying exist knowledge
|
Identifying
receiving and understanding new information
|
Confirming
and using new knowledge
|
||||
DRU
Model
|
D.การวินิจฉัยการออกแบบการเรียนรู้
|
R.การใช้วิจัยเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
|
U.การประเมินตรวจสอบทบทวนตนเอง
|
||||
SU
Learning
Model
|
การวางแผนการเรียนรู้
|
การออกแบบการเรียนรู้
|
ปฏิบัติการการเรียนรู้
(การเรียนรู้ +การจัดการชั้นเรียน) |
การประเมินการเรียนรู้
|
|||
Reseaech
Learning
|
วิเคราะห์จุดหมายในการเรียนรู้
|
วางแผนการเรียนรู้
|
การพัฒนาทักษะการเรียนรู้
|
การสรุปความรู้
|
การวิพากษ์ความรู้
|
ประเมินการเรียนรู้
|
|
The
STUDIES
Model
|
S
Setting
Learning goals |
T-Task
Analysis |
U-Universa
Design Instruction |
D-Digital
Learning |
I-Integrate
Learning |
E- Evalution
|
S/sndardta
|
รูปแบบThe STUDIES Model
รูปแบบ The STUDIES Model มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชาชีพครู มีความรู้ความเข้าใจบทบาทมากที่สำคัญในฐานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอน และมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำความรู้ไปติดการเรียนรู้และจัดการในเรือนรายละเอียดดังภาพประกอบที่ 2
รูปแบบ The STUDIES Model มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชาชีพครู มีความรู้ความเข้าใจบทบาทมากที่สำคัญในฐานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอน และมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำความรู้ไปติดการเรียนรู้และจัดการในเรือนรายละเอียดดังภาพประกอบที่ 2
รูปแบบ The STUDIES Model มี 7
ขั้นตอนดังรายละเอียดต่อไปนี้
S : กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ (Sciting leaสาหg Real) กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ผู้เรียนต้อง ระบุจุดหมายการเรียนรู้ (privals) ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติโดยการระบุ ความรู้ในรูปของสารสนเทศ (delualive knowledge) และระบุทักษะการปฏิบัติ หรือกระบวนการ (Fctural Lawledge) จุดหมาย
การเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียนปริมาณเนื้อหาสาระหรือความรู้แต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งและเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
T: วิเคราะห์ภาระงาน (Talk Analysis) ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ได้ความรู้ (knowledge) ทักษะ (Skill) และเจตคติ (Attitude) ที่เกี่ยวข้องเพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่หมายการเรียนรู้ การวิเคราะห์งานทะเบียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือ Knowledge-Skill- Attitudes
D: การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายเช่นเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social networking) การแชร์ภาพ และการใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่เป็นต้นการเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศแต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับเนื้อหา (Content) จริยธรรม สังคม การสะท้อน (Reflection) ซึ่งฝังอยู่ในการเรียนรู้ การทำงานและชีวิตประจำวัน
I : การบูรณาการความรู้ (Integrated knowledge) การเชื่อมโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสนาต่างๆ ของรายวิชาเดียวกันหรือหลากหลายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integrated learning Management) เป็นกระบวนการจัดประสบการณ์ใดเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ผู้เรียนได้รับความรู้ทักษะและเจตคติ
S : กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ (Sciting leaสาหg Real) กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ผู้เรียนต้อง ระบุจุดหมายการเรียนรู้ (privals) ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติโดยการระบุ ความรู้ในรูปของสารสนเทศ (delualive knowledge) และระบุทักษะการปฏิบัติ หรือกระบวนการ (Fctural Lawledge) จุดหมาย
การเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียนปริมาณเนื้อหาสาระหรือความรู้แต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งและเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
T: วิเคราะห์ภาระงาน (Talk Analysis) ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ได้ความรู้ (knowledge) ทักษะ (Skill) และเจตคติ (Attitude) ที่เกี่ยวข้องเพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่หมายการเรียนรู้ การวิเคราะห์งานทะเบียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือ Knowledge-Skill- Attitudes
D: การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายเช่นเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social networking) การแชร์ภาพ และการใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่เป็นต้นการเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศแต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับเนื้อหา (Content) จริยธรรม สังคม การสะท้อน (Reflection) ซึ่งฝังอยู่ในการเรียนรู้ การทำงานและชีวิตประจำวัน
I : การบูรณาการความรู้ (Integrated knowledge) การเชื่อมโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสนาต่างๆ ของรายวิชาเดียวกันหรือหลากหลายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integrated learning Management) เป็นกระบวนการจัดประสบการณ์ใดเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ผู้เรียนได้รับความรู้ทักษะและเจตคติ
E: การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน (Evaluation to Improve Teaching) การประเมินการเรียนรู้ของตนเอง โดยกำหนดค่าคะแนนจากการวิเคราะห์การประเมินการเรียนรู้ด้านความรู้
(Cognitive Dorman) ของบลูม (Bloom 's Taxonomy) การประเมินตามสภาพจริงและการประเมินจากแฟ้มสะสมงานเป็นการตรวจสอบการบรรลุจุดหมายการเรียนรู้
S : การประเมินอิงมาตรฐาน
(Standard Based Assessment) การประเมินคุณภาพการเรียนอิงมาตรฐาน
โดยใช้แนวคิดพื้นฐานโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ (Structure of
Observed Learning Outcomes: SOLO Taxonomy) มากำหนดระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นการตรวจสอบคุณภาพการเรียนรู้รวมถึงมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก
การปรับปรุงรายวิชา
สาขาวิชาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยนครพนม ได้ปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต พ. ศ. 2556
เป็นหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิตปรับปรุง พ.
ศปรับเปลี่ยนรายวิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ (Instructional Design
and Management จัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน (Instructional
and Classrom Management) ปรับปรุง คือ ชื่อรายวิชารหัสวิชา จำนวนชั่วโมง
ในการจัดการเรียนการสอน และคำอธิบายรายวิชาทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้สาระและสมรรถนะในการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ที่คุรุสภากำหนดหนังสือ
"The STUDIES Model : การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียนเพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ดังกล่าว
สรุป
การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
เป็นวิชาที่นักศึกษาวิชาชีพครูจะต้องศึกษาไว้ให้แตกฉานรูปแบบ The
STUDIES Model เป็นการนำเสนอให้รู้จักหลักเกณฑ์หรือแนวทางในการจัดการเรียนรู้
กล่าวได้ว่าการรู้รูปแบบ The STUDIFs Model อย่างเดียวแต่ถ้าไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริงๆ
ก็คงสอนไม่ได้ตรงรูปแบบ The STUDIES Model พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้สอนได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าในการจัดการเรียนรู้ควรจะปรับปรุงแก้ไขประเด็นใด
เมื่อผู้สอนได้แบบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจนแล้วการจัดการเรียนรู้ต่อไปก็จะง่ายขึ้น
ถ้าเป็นไปได้ก็คิดขั้นตอนกระบวนการของตนเองขึ้นมาบ้าง ไม่ต้องเดินตามวิธีการที่คนอื่นกำหนดไว้เสมอไป
ตรวจสอบและทบทวน
สืบค้นมาตรฐานวิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภามาตรฐานวิชาชีพ
พ. ศ. 2556
มาตรฐานด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพมาตรฐานที่ 6 การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียนนำ มากำหนดจุดหมาย (Goals) ในการศึกษารายวิชาเพื่อการบรรลุมาตรฐานดังกล่าวนี้
Weblink
http://www. ksp. or. th/ksp2013/content/view. php?m
id = 136 & did = 1193
รูปภาพสำหรับ the
studies model พิจิตราธงพานิช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น