การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ
การวัด และ การวัดผล
บางคนเข้าใจว่า 2 คำนี้เป็นคำเดียวกัน
มีความหมายเหมือนกัน เพราะมาจากภาษาอังกฤษคำเดียวกันคือ measurement แต่ในภาษาไทย 2 คำนี้มีความหมายแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้
การวัด
เป็นกระบวนการกำหนดตัวเลขหรือสัญลักษณ์แทนปริมาณหรือคุณภาพของคุณลักษณะหรือคุณสมบัติของสิ่งที่ต้องการวัด
การวัดผล
เป็นกระบวนการกำหนดตัวเลขหรือสัญลักษณ์แทนปริมาณหรือคุณภาพของคุณลักษณะหรือคุณสมบัติของสิ่งที่ต้องการวัด โดยสิ่งที่ต้องการวัดนั้นเป็นผลมาจากการกระทำหรือกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน เช่น
การวัดผลการเรียนรู้ สิ่งที่วัดคือ
ผลที่เกิดจากการเรียนรู้ของผู้เรียน
องค์ประกอบของการวัด
องค์ประกอบของการวัดประกอบด้วย
สิ่งที่ต้องการวัด เครื่องมือวัด
และผลของการวัด ที่สำคัญที่สุด คือ
เครื่องมือวัด เครื่องมือที่มีคุณภาพจะให้ผลการวัดที่เที่ยงตรงและแม่นยำ
ประเภทของสิ่งที่ต้องการวัด
สิ่งที่ต้องการวัดแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. สิ่งที่เป็นรูปธรรม คือ คน สัตว์ หรือสิ่งของ
ที่จับต้องได้ มีรูปทรง
การวัดสิ่งที่เป็นรูปธรรมนี้เป็นการวัดทางกายภาพ (physical) คุณลักษณะที่จะวัดสามารถกำหนดได้ชัดเจน
เช่น น้ำหนัก ความสูง ความยาว
เครื่องมือวัดคุณลักษณะเหล่านี้ให้ผลการวัดที่เที่ยงตรงและแม่นยำสูง วัดได้ครบถ้วน
สมบูรณ์ และเอียดถี่ถ้วน ตัวอย่างเครื่องมือวัด เช่น เครื่องชั่ง ไม้บรรทัด สายวัด เป็นต้น
การวัดลักษณะนี้เป็นการวัดทางตรง
ตัวเลขที่ได้จากการวัดแทนปริมาณคุณลักษณะที่ต้องการวัดทั้งหมด เช่น หนัก 10 กิโลกรัม สูง 172 เซนติเมตร ยาว
3.5 เมตร ตัวเลข 10 172
และ 3.5 แทนน้ำหนัก ความสูง
และความยาวทั้งหมด เช่น 10
แทนน้ำหนักทั้งหมด
ถ้าไม่มีคุณลักษณะดังกล่าว เช่นหนัก 0 หน่วย ก็คือ ไม่มีนำหนักเลย ตัวเลข 0 นี้เป็นศูนย์แท้ (absolute
zero)
2. สิ่งที่เป็นนามธรรม
คือสิ่งที่ไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ เป็นการวัดพฤติกรรมและสังคมศาสตร์ (behavioral and social
science) คุณลักษณะที่จะวัดกำหนดได้ไม่ชัดเจน เช่น
การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (achievement) วัดเจตคติ
(attitude) วัดความถนัด (aptitude) วัดบุคลิกภาพ (personality) เป็นต้น
เครื่องมือวัดด้านนี้มีคุณภาพด้อยกว่าเครื่องมือวัดสิ่งที่เป็นรูปธรรม คือ
ให้ผลการวัดที่เที่ยงตรงและแม่นยำน้อยกว่า
ลักษณะการวัด เป็นการวัดทางอ้อม
วัดได้ไม่สมบูรณ์
ไม่ละเอียดถี่ถ้วน และมีความผิดพลาด
ตัวเลขหรือสัญลักษณ์ที่ได้จากการวัดเป็นค่าโดยประมาณ
ไม่สามารถแทนปริมาณหรือคุณภาพของคุณลักษณะที่ต้องการวัดได้ทั้งหมด เช่น
การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนคนหนึ่ง ได้ 15
คะแนน ตัวเลข 15
ไม่ได้แทนปริมาณความรู้ความสามารถทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนคนนี้ทั้งหมด แม้แต่นักเรียนที่สอบได้คะแนนเต็ม
ไม่ได้หมายความว่านักเรียนผู้นั้นมีความรู้ความสามารถในเรื่องดังกล่าวสมบูรณ์เต็มตามกรอบของหลักสูตร
ในทางตรงกันข้ามนักเรียนที่ได้ 0 คะแนน
ก็ไม่ได้หมายความว่านักเรียนผู้นั้นไม่มีความรู้ความสามารถในคุณลักษณะดังกล่าว
เพียงแต่ตอบคำถามผิดหรือเครื่องมือวัดไม่ตรงกับความรู้ความสามารถที่นักเรียนคนนั้นมี
เลข 0 นี้ เป็นศูนย์เทียม
ลักษณะการวัดทางการศึกษา
การวัดทางการศึกษาเป็นการวัดคุณลักษณะที่เป็นนามธรรม มีลักษณะการวัด ดังนี้
1. เป็นการวัดทางอ้อม
คือ ไม่สามารถวัดคุณลักษณะที่ต้องการวัดได้โดยตรง
ต้องนิยามคุณลักษณะดังกล่าวไห้เป็นพฤติกรรมที่วัดได้ก่อน จากนั้นจึงวัดตามพฤติกรรมที่นิยาม เช่น
การวัดความรับผิดชอบของนักเรียน ต้องให้นิยามคุณลักษณะความรับผิดชอบเป็นพฤติกรรมที่วัดได้ โดยอาจจะแยกเป็นพฤติกรรมย่อย เช่น ไม่มาโรงเรียนสาย ทำงานทุกงานที่ได้รับมอบหมาย
นำวัสดุอุปกรณ์การเรียนที่ครูสั่งมาครบทุกครั้ง ส่งงานหรือการบ้านตามเวลาที่กำหนด เป็นต้น
2. วัดได้ไม่สมบูรณ์
การวัดทางการศึกษาไม่สามารถทำการวัดคุณลักษณะที่ต้องการวัดได้ครบถ้วนสมบูรณ์ วัดได้เพียงบางส่วน หรือวัดได้เฉพาะตัวแทนของคุณลักษณะทั้งหมด เช่นการวัดความสามารถการอ่านคำของนักเรียน
ผู้วัดไม่สามารถนำคำทุกคำมาทำการทดสอบนักเรียน ทำได้เพียงนำคำส่วนหนึ่งที่คิดว่าเป็นตัวแทนของคำทั้งหมดมาทำการวัด เป็นต้น
3. มีความผิดพลาด
สืบเนื่องจากการที่ไม่สามารถวัดได้โดยตรง
และการนิยามสิ่งที่ต้องการวัดก็ไม่สามารถนิยามให้เป็นพฤติกรรมที่วัดได้ได้ทั้งหมด จึงวัดได้ไม่สมบูรณ์ ตัวเลขหรือสัญลักษณ์ที่ได้จากการวัดเป็นการประมาณคุณลักษณะที่ต้องการวัด
ซึ่งในความเป็นจริงคุณลักษณะดังกล่าวอาจจะมีมากหรือน้อยกว่า ผลการวัดจึงมีความผิดพลาดของการวัด หรือคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
การวัดที่ดีจะต้องให้เกิดการผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด
4. อยู่ในรูปความสัมพันธ์
การที่จะรู้ความหมายของตัวเลขที่วัดได้
ต้องนำตัวเลขดังกล่าวไปเทียบกับเกณฑ์หรือเทียบกับคนอื่น เช่น นำคะแนนที่นักเรียนสอบได้เทียบกับคะแนนเฉลี่ยของกลุ่ม เทียบกับคะแนนของเพื่อนที่สอบพร้อมกัน
หรือเทียบกับคะแนนของนักเรียนเองกับการสอบครั้งก่อนๆ ถ้าคะแนนสูงกว่าเพื่อน แสดงว่ามีความสามารถในเรื่องที่วัดมากกว่าเพื่อนคนนั้น
หรือถ้ามีคะแนนสูงกว่าคะแนนที่ตนเองเคยสอบผ่านมา แสดงว่ามีพัฒนาการขึ้น เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น