การจัดการเรียนรู้แบบใช้การวิจัยเป็นฐาน (Research - Based Learning : RBL)
1. ความหมายของการจัดการเรียนรู้แบบใช้การวิจัยเป็นฐาน
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ (2538 : 47) ให้ความหมายของการวิจัยว่า เป็นกระบวนการสืบหาความจริงเกี่ยวกับปรากฏการณ์ตามธรรมชาติอย่างมีระบบ มีการควบคุม การสังเกตการบันทึก การจัดระเบียบข้อมูล การวิเคราะห์และตีความหมายเพื่อให้ได้เป็นข้อเท็จจริงที่สามารถนำมาสร้างเป็นข้อสรุปเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์นั้น ๆ และนำผลที่ได้มาพัฒนาหรือสร้างกฎ ทฤษฎี ที่ทำให้ควบคุม หรือทำนายเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้
เสาวนีย์ กานต์เดชารักษ์ (2539 : 27-29) ได้ให้ความหมายเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบใช้การวิจัยเป็นฐานไว้ว่าเป็นการนำแนวคิดการวิจัยมาเป็นพื้นฐานในการเรียนการสอนและผสมผสานวิธีการสอนแบบต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง จากตำราเอกสารสื่อต่าง ๆ คำบอกเล่าของอาจารย์ รวมทั้งจากผลการวิจัย และงานวิจัยต่าง ๆ ตลอดจนทำรายงานหรือทำวิจัยได้
อมรวิชช์ นาครทรรพ (2546 : 12) ได้ให้ความหมายเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบใช้การวิจัยเป็นฐาน ไว้ว่าเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการศึกษาค้นคว้าและค้นพบข้อเท็จจริงต่าง ๆ ในเรื่องที่ศึกษาด้วยตนเอง โดยอาศัยกระบวนการวิจัยอย่างเป็นระบบเป็นเครื่องมือสำคัญ
สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ และทัศนีย์ บุญเติม (2547 : 37) ได้ให้ความหมายเกี่ยวกับ การจัดการเรียนรู้แบบใช้การวิจัยเป็นฐาน ไว้ว่า เป็นการสอนเนื้อหาวิชา เรื่องราวกระบวนการทักษะ และอื่น ๆ โดยใช้รูปแบบการสอนชนิดที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เนื้อหาหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการสอนนั้น โดยอาศัยพื้นฐานกระบวนการวิจัย
ทิศนา แขมมณี (2548 : 3) ได้ให้ความหมายเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบใช้การวิจัยเป็นฐานหรือใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ก็คือ การจัดให้ผู้เรียนและใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการสืบสอบในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ศึกษาวิจัย ในการดำเนินการแสวงหาความรู้ใหม่หรือคำตอบที่เชื่อถือได้
จรัส สุวรรณเวลา (2546 : 16) ได้ให้ความหมายของการวิจัยว่า เป็นการได้มาซึ่งความรู้ที่ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ในแต่ละสาขาและกระบวนการวิจัยยังทำให้ผู้วิจัยได้มีการวางแผนเตรียมการและดำเนินการอย่างเป็นระบบจนค้นพบความจริง สร้างความรู้ใหม่ที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์
นอกจากนี้ การวิจัยได้พัฒนาคุณลักษณะให้ผู้วิจัยต้องมีการคิดวิเคราะห์มีความคิดสร้างสรรค์ มีความ
ซื่อสัตย์ มีความอดทน นับได้ว่าการวิจัยมีบทบาทและความสำคัญทั้งในการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ การพัฒนาคนและพัฒนางานและส่งผลไปสู่การพัฒนาประเทศ
ตาราง 1 บทบาทครูและผู้เรียนในการเรียนการสอนแบบครูใช้ผลการวิจัย
แนวทางการใช้การวิจัย 
ในการเรียนการสอน 
 | 
บทบาทครู 
 | 
บทบาทผู้เรียน 
 | 
แนวทางที่ 1 ครูใช้ผลการวิจัย 
ในการเรียนการสอน 
ครูใช้ผลการวิจัยประกอบ 
การเรียนการสอนเนื้อหาสาระ 
ต่าง ๆ ช่วยให้ผู้เรียนขยาย 
ขอบเขตของความรู้ ได้ความรู้ 
ที่ทันสมัยและคุ้นเคยกับแนวคิด 
การวิจั 
 | 
- ครูสืบค้นแหล่งข้อมูลที่เกี่ยว 
ข้องกับสาระที่สอน 
- ครูศึกษางานวิจัย/ข้อมูลข่าว 
สาร/องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ 
เนื้อหาสาระ 
- ครูนำผลการวิจัยมาใช้ 
ประกอบเนื้อหาสาระที่สอน 
เสริมให้ผู้เรียนได้ความรู้เพิ่มขึ้น 
เช่น ครูนำผลงานวิจัยเกี่ยวกับ 
เรื่องพืช หรือสุขภาพ มาเสริม 
การเรียนรู้สาระดังกล่าว 
- ประยุกต์ใช้ในการเรียน 
การสอน เช่น ครูอ่านผลการ 
วิจัยเกี่ยวกับทฤษฎี 
ความคาดหวังและนำมาใช้กับ 
นักเรียน เป็นต้น 
- ครูและผู้เรียนร่วมกันอภิปราย 
เกี่ยวกับผลการวิจัย/กระบวน 
การวิจัย/ความสำคัญของการ 
วิจัย 
- ครูวัดและประเมินผลการ 
เรียนรู้เกี่ยวกับผลการวิจัย/ 
กระบวนการวิจัยควบคู่กับ 
การเรียนรู้สาระตามปกติ 
 | 
- เรียนรู้เนื้อหาสาระโดยมีผล 
การวิจัยประกอบ ทำให้ผู้เรียน 
คุ้นเคยกับเรื่องของ 
การวิจัย การแสวงหาความรู้ 
การใช้เหตุผล ฯลฯ 
- อภิปรายประเด็นต่าง ๆ 
ที่เกี่ยวข้องกับผลการวิจัย/ 
กระบวนการวิจัย/ความสำคัญ 
ของการวิจัย 
 | 
ตาราง 2 บทบาทครูและผู้เรียนในการเรียนการสอนแบบผู้เรียนใช้ผลการวิจัย
แนวทางการใช้การวิจัย 
ในการเรียนการสอน 
 | 
บทบาทครู 
 | 
บทบาทผู้เรียน 
 | 
แนวทางที่ 2 ผู้เรียนใช้ผลการ 
วิจัยในการเรียนการสอน 
การให้ผู้เรียนสืบค้นและ 
ศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ 
สาระที่เรียนด้วยตนเองสาระที่เรียนด้วยตนเอง 
 | 
- ครูสืบค้นแหล่งข้อมูลและ 
ศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ 
สาระที่สอน 
- ครูกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความ 
สนใจใฝ่รู้ เกิดข้อสงสัย อยากรู้ 
อยากแสวงหาคำตอบของข้อ 
สงสัย 
- ครูให้คำแนะนำเกี่ยวกับแหล่ง 
ข้อมูลและงานวิจัย 
ที่ผู้เรียนจะต้องสืบค้น 
เพื่อการศึกษาหาความรู้ รวมทั้ง 
คัดเลือกงานวิจัยที่เหมาะสมกับ 
วัยของผู้เรียน 
- ครูอาจจำเป็นต้องสรุปงาน 
วิจัยให้เหมาะสมกับระดับของผู้ 
เรียน 
- ครูแนะนำวิธีการอ่าน/ศึกษาวิเคราะห์รายงานวิจัยตามความ 
เหมาะสมกับระดับผู้เรียน ได้ 
แก่ องค์ประกอบต่าง ๆ ของ 
งานวิจัย วัตถุประสงค์ วิธี 
ดำเนินการวิจัยขอบเขต ข้อ 
จำกัดของผลการวิจัย อภิปราย 
ผล การวิจัยการอ้างอิง ฯลฯ 
- ครูเชื่อมโยงสาระของงานวิจัย 
กับสาระของการเรียนการสอน 
- ครูและผู้เรียนร่วมกันอภิปราย 
เกี่ยวกับผลการวิจัย/กระบวน 
การวิจัย/ความสำคัญของการ 
วิจัย 
- ครูวัดและประเมินผลทักษะ 
การอ่านรายงานวิจัยและการ 
เรียนรู้เกี่ยวกับผลการวิจัย/ 
กระบวนการวิจัย ควบคู่ไปกับ 
การเรียนรู้สาระตามปกติ 
 | 
- แสวงหา สืบค้นข้อมูลเกี่ยว 
กับการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสาระ 
ที่เรียนรู้ตามความสนใจของตน 
- ศึกษารายงานวิจัยต่าง ๆ 
โดยฝึกทักษะการเรียนรู้ที่จำเป็น 
เช่น ทักษะการอ่านงานวิจัย 
การสรุปผลการวิจัย 
การนำเสนอผลการวิจัย 
การอภิปรายผลการวิจัย 
- นำเสนอสาระของงานวิจัย 
อย่างเชื่อมโยงกับสาระที่กำลัง 
เรียนรู้ 
- อภิปรายประเด็นต่าง ๆ 
ที่เกี่ยวข้องกับผลการวิจัย/ความ 
สำคัญของการวิจัย 
- ประเมินตนเองเกี่ยวกับทักษะ 
การอ่านรายงาน และการเรียนรู้เกี่ยวกับผลการวิจัย/กระบวน 
การวิจัย 
 | 
ตาราง 3 บทบาทครูและผู้เรียนในการเรียนการสอนแบบครูใช้กระบวนการวิจัย
แนวทางการใช้การวิจัย 
ในการเรียนการสอน 
 | 
บทบาทครู 
 | 
บทบาทผู้เรียน 
 | 
แนวทางที่ 3 ครูใช้กระบวน 
การวิจัยในการเรียนการสอน 
ครูใช้กระบวนการวิจัย 
ซึ่งอาจจะเป็นบางขั้นตอนหรือ 
ครบทุกขั้นตอนในการจัดการ 
เรียนการสอน โดยพิจารณา 
ตามความเหมาะสมกับสาระ 
การเรียนการสอนและวัย 
ของผู้เรียน 
 | 
- ครูพิจารณาวัตถุประสงค์และ 
สาระที่จะให้แก่ผู้เรียนและ 
วิเคราะห์ว่าสามารถใช้ขั้นตอน 
การวิจัยขั้นตอนใดได้บ้างใน 
การสอน ซึ่งอาจจะใช้กระบวน 
การวิจัยบางขั้นตอนหรือครบ 
ทุกขั้นตอน 
- ครูออกแบบกิจกรรมการเรียน 
รู้ โดยใช้กระบวนการวิจัย/ขั้น 
ตอนการวิจัยที่กำหนด 
เพื่อการเรียนรู้สาระที่ต้องการ 
ตามแผน 
- ครูดำเนินกิจกรรม โดยใช้ 
กระบวนการวิจัย/ขั้นตอนการ 
วิจัยที่กำหนดในการสอน 
- ครูฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการ 
ดำเนินการวิจัยให้แก่ผู้เรียน 
(ทักษะการระบุปัญหา ให้คำ 
นิยาม ตั้งสมมติฐาน คัดเลือก 
ตัวแปรการสุ่มตัวอย่างประชา 
กร การสร้างเครื่องมือ การ 
พิสูจน์ ทดสอบ 
การรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ 
สังเคราะห์ และสรุปผลการวิจัย 
การอภิปรายผล และการให้ข้อ 
เสนอแนะ) 
- ครูสังเกตพฤติกรรมการเรียน 
รู้ทักษะกระบวนการวิจัยของผู้ 
เรียน และพิจารณาว่าควรจะ 
เสริมทักษะด้านใดให้กับผู้เรียน 
- ครูและผู้เรียนร่วมกันอภิปราย 
เกี่ยวกับกระบวนการวิจัยและ 
ผลการวิจัยที่เกิดขึ้น 
- ครูวัดและประเมินทักษะ 
กระบวนการวิจัยควบคู่ไปกับ 
ผลการเรียนรู้สาระตามปกติ 
 | 
- เรียนรู้ตามขั้นตอนของ 
กระบวนการวิจัยที่ครูกำหนด 
- ฝึกทักษะกระบวนวิจัยที่จำ 
เป็นต่อการดำเนินการตามขั้น 
ตอนการวิจัยที่ครูกำหนด 
- อภิปรายประเด็นเกี่ยวกับ 
กระบวนการวิจัยที่ตนเองมี 
ประสบการณ์ และผลการวิจัย 
ที่เกิดขึ้น 
- ประเมินตนเองในด้านทักษะ 
กระบวนการวิจัย และผลการ 
วิจัยที่ได้รับ 
 | 
ตาราง 4 บทบาทครูและผู้เรียนในการเรียนการสอนแบบผู้เรียนใช้กระบวนการวิจัย
แนวทางการใช้การวิจัย ในการ 
เรียนการสอน 
 | 
บทบาทครู 
 | 
บทบาทผู้เรียน 
 | 
แนวที่ 4 ผู้เรียนใช้กระบวน 
การวิจัยในการเรียนการสอน 
ครูให้ผู้เรียนทำวิจัยโดยใช้ 
กระบวนการวิจัย (ครบทุกขั้น 
ตอน) ในการทำวิจัย 
เพื่อแสวงหาคำตอบ หรือความ 
รู้ใหม่ตามความสนใจ 
ของตน 
 | 
- ครูพิจารณาและวิเคราะห์วัตถุ 
ประสงค์และสาระการเรียนรู้ว่า 
มีส่วนใดที่เอื้อให้ผู้เรียน 
สามารถทำวิจัยได้ 
- ครูออกแบบกิจกรรมการเรียน 
รู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนทำวิจัย 
ได้ 
- ครูกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความ 
สนในใฝ่รู้ 
- ครูฝึกทักษะกระบวนการวิจัย 
ให้แก่ผู้เรียน (การระบุปัญหา 
วิจัย วัตถุประสงค์ ตั้งสมมติฐาน 
การออกแบบการวิจัย สร้าง 
เครื่องมือ 
- ครูและผู้เรียนร่วมกันอภิปราย 
เกี่ยวกับกระบวนการวิจัยและ 
ผลการวิจัยที่เกิดขึ้น 
- ครูวัดและประเมินทักษะ 
กระบวนการวิจัยควบคู่ไปกับ 
ผลการเรียนรู้สาระตามปกติ 
 | 
- คิดประเด็นวิจัยที่ตนสนใจ 
- ฝึกทักษะกระบวนการวิจัยที่ 
จำเป็นต่อการดำเนินการ เช่น 
การระบุปัญหาวิจัยและวัตถุ 
ประสงค์ การตั้งสมมติฐาน 
การออกแบบการวิจัย การสร้าง 
เครื่องมือ ฯลฯ 
- ปฏิบัติการวิจัยตามกระบวน 
การวิจัยที่เหมาะสม 
- บันทึกความคิด และประสบ 
การณ์ รวมทั้งข้อสังเกตต่าง ๆ 
ที่ตนประสบจากการดำเนินงาน 
- อภิปรายประเด็นเกี่ยวกับ 
กระบวนการวิจัย และผลการ 
วิจัยที่เกิดขึ้น 
- ประเมินตนเอง ด้านทักษะ 
กระบวนการวิจัย 
 | 
บทบาทครูในการจัดการเรียนรู้โดยเน้นกระบวนการวิจัย
ทิศนา แขมมณี (2547 : 56) กล่าวถึงกระบวนการวิจัยว่ามีด้วยกัน 6 ขั้น ได้แก่
ขั้นที่ 1 การระบุปัญหา ขั้นที่ 2 การตั้งสมมติฐาน ขั้นที่ 3 พิสูจน์ทดสอบสมมติฐาน ขั้นที่ 4 รวบ
รวมข้อมูล ขั้นที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูล และขั้นที่ 6 สรุปผล ซึ่งในการจัดการเรียนการสอน
โดยเน้นกระบวนการวิจัยหรือใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้โดยทั่ว ๆ ไป ครูมักจัดให้ผู้
เรียนดำเนินการตามขั้นตอนของการวิจัยทั้ง 6 ขั้น แต่จุดอ่อนที่พบก็คือ ครูมักไม่สอนหรือฝึกทักษะ
กระบวนการที่จำเป็นต่อการดำเนินการให้แก่ผู้เรียน ตัวอย่างเช่น ครูมักมอบหมายให้ผู้เรียน
ไปสืบค้นข้อมูลความรู้ หรือไปเก็บข้อมูล หรือสรุปข้อมูล โดยไม่ได้สอนหรือฝึกทักษะหรือสิ่งที่จำ
เป็นต่อการทำสิ่งนั้น จึงได้กล่าวได้ว่าเป็นการสั่งมากกว่าการสอน การสั่งเป็นเพียงการเปิดโอกาสให้
ผู้เรียนมีโอกาสใช้กระบวนการเหล่านั้น ซึ่งผู้เรียนจะทำได้มากน้อยหรือดีเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กันศักย
ภาพของผู้เรียนเป็นสำคัญ ครูไม่ได้สอนเพราะการสอนหมายถึง การช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เพิ่ม
พูนขึ้นจากระดับที่เป็นอยู่ ดังนั้นหากครูจะสอนกระบวนการวิจัย ครูจะต้องช่วยให้ผู้เรียนเกิด
การเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว ครูจำเป็นต้องช่วยเสริมทักษะที่จำเป็นต่อการดำเนินงาน
ในแต่ละขั้นตอน ซึ่งทักษะเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นทักษะที่เรียกว่า ทักษะกระบวนการ ซึ่งอาจเป็น
ทักษะกระบวนการทางสติปัญญา เช่น ทักษะกระบวนการคิด หรือทักษะกระบวนการทางสังคม
เช่น ทักษะการปฏิสัมพันธ์ ทักษะการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงบทบาทครูในการจัด
การเรียนรู้โดยกระบวนการวิจัยในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการวิจัย นำเสนอได้ดังตาราง 5
ตาราง 5 บทบาทครูในการจัดการเรียนรู้โดยเน้นกระบวนการวิจัย
กระบวนการวิจัย 
 | 
บทบาทครู 
 | 
1. ระบุปัญหาการวิจัย 
 | 
ครูจะทำอย่างไร ผู้เรียนจึงจะสามารถระบุปัญหาการวิจัยได้ชัดเจน 
- ครูควรสอนและฝึกทักษะการสังเกตปัญหา ตั้งคำถาม รวบรวมข้อ 
มูล วิเคราะห์ปัญหา และระบุปัญหาที่แท้จริง 
 | 
2. ตั้งสมมติฐาน 
 | 
ครูจะทำอย่างไร ผู้เรียนจึงจะสามารถตั้งสมมติฐานได้ 
- ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล หาสาเหตุ 
คาดเดาคำตอบของปัญหาอย่างมีหลักการและมีหลักฐานรองรับและ 
ตั้งสมมติฐานที่เหมาะสม 
 | 
3. พิสูจน์ ทดสอบ สมมติฐาน 
 | 
ครูทำอย่างไร ผู้เรียนจึงจะสามารถพิสูจน์ ทดสอบสมมติฐานได้ 
- ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กระบวนการและวิธีการ 
ในการออกแบบ การพิสูจน์หรือทดสอบสมมติฐานที่เหมาะสมกับ 
ศาสตร์ของเรื่องที่วิจัย 
 | 
4. รวบรวมข้อมูล 
 | 
ครูจะทำอย่างไร ผู้เรียนจึงจะสามารถรวบรวมข้อมูลได้ 
- ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการแสวงหาแหล่งข้อมูล วิธี 
การเก็บรวบรวมข้อมูล และวิธีการสร้างเครื่องมือที่เหมาะสมกับ 
ศาสตร์ของเรื่องที่วิจัย 
 | 
5. วิเคราะห์ข้อมูล 
 | 
ครูจะทำอย่างไร ผู้เรียนจึงจะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ 
- ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการที่เหมาะสมกับศาสตร์ของ 
เรื่องที่วิจัยในการวิเคราะห์ข้อมูล การใช้สถิติต่าง ๆ การกำหนด 
เกณฑ์ประเมิน และการนำเสนอข้อมูล 
 | 
6. สรุปผล 
 | 
ครูจะทำอย่างไร ผู้เรียนจึงจะสามารถสรุปผลได้ 
- ครูควรสอนและฝึกให้ผู้เรียนรู้จักวิธีการสรุปข้อมูล และการตอบ 
สมมติฐาน 
 | 
สรุปว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน มีแนวทางการจัดการเรียนรู้  4 แนวทาง คือ
1. ครูใช้ผลการวิจัยในการเรียนการสอน
2. ผู้เรียนใช้ผลการวิจัยในการเรียนการสอน
3. ครูใช้กระบวนการวิจัยในการเรียนการสอน
4. ผู้เรียนใช้กระบวนการวิจัยในการเรียนการสอน
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แนวทางที่ 4 ได้แก่ ผู้เรียนใช้กระบวนการวิจัยในการเรียนการสอน ซึ่งใช้กระบวนการวิจัย 6 ขั้น ในการจัดการเรียนรู้มีกระบวนการวิจัย ดังนี้
ขั้นที่ 1 ขั้นระบุปัญหาการวิจัย
ขั้นที่ 2 ขั้นตั้งสมมติฐาน
ขั้นที่ 3 การพิสูจน์ทดสอบสมมติฐาน
ขั้นที่ 4 ขั้นรวบรวมข้อมูล
ขั้นที่ 5 ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
ขั้นที่ 6 ขั้นสรุปผล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น